เขียนเมื่อ: 12 August 2023
การเคลื่อนไหวรอบเดือน Dow Jones +2.58%, S&P500 -1.02%, NASDAQ -3.49%, EU STOXX 600 -0.47% (ยุโรป), CSI300 -0.36% (จีน), Hang Seng -1.47%, TOPIX +2.70% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.36% (อินเดีย), VN100 +7.44% (เวียดนาม), SET +2.75%
ตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งสหรัฐฯ ยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นการจ้างงานก็ยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคิดว่าจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และดันให้ดัชนีหลักทั่วโลกยังคงตัวในระดับสูงต่อไป แม้มีการปรับตัวลงพอสมควรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
นอกจากนั้นยังเริ่มมีสัญญาณว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีครอบคลุมบริษัทจำนวนมากขึ้น ภายหลังก่อนหน้านี้เป็นการปรับตัวขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เท่านั้น (อ้างอิง)
เริ่มมีความกังวลถึงผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี ที่แม้ว่าจะไม่ปรับเพิ่มแล้ว ก็อาจจะคงตัวในระดับสูงต่อไปอีกยาวนาน ซึ่งจะกดดันการเติบโตทางดศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความไม่มั่นคงต่อระบบธนาคารในสหรัฐฯ (อ้างอิง)
เศรษฐกิจจีนดูท่าไม่ค่อยดี โดยนอกจากไม่ได้เติบโตอย่างที่หวังกันไว้เมื่อต้นปี ล่าสุดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ตกต่ำ และเศรษฐกิจอาจจะกำลังหดตัวที่สะท้อนในตัวเลขเงินเฟ้อติดลบ นอกจากนั้นยังมีนโยบายของสหรัฐฯ ที่จำกัดการลงทุนในจีน เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลายแขนง (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
แนะนำใช้การลงทุนแบบ DCA เพื่อรักษาวินัยการลงทุนขั้นต่ำ โดยที่สำรองเงินลงทุนบางส่วนไว้
นอกจากนั้นอาจพิจารณาขายกองทุนที่มีผลตอบแทนดีในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนเพิ่มหากดัชนีมีการปรับฐาน
หลังราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี
กองทุนเด่น เช่น
MEGA10-A กองทุน Exclusive ที่ FINNOMENA ร่วมมือกับ partners ให้นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท Top 10 ของโลก ในสัดส่วนที่หาไม่ได้จากกองทุนอื่น,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท
เศรษฐกิจจีนอาการไม่ค่อยดี โดยนอกจากแผน DCA ยังแนะนำให้ชะลอการสะสมเพิ่ม
โดยรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทางการ แต่ไม่แนะนำให้ขายตัดขาดทุน
เนื่องจากราคานี้น่าจะซึบซับข่าวเรื่องการหดตัวของการบริโภคและความเสี่ยงภาคอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว
กองทุนเด่น เช่น
KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก
อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สะท้อนไปถึงผลตอบแทนพันธบัตรทั้งภาครัฐฯและเอกชน ณ ตอนนี้อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความคาดหวังผลตอบแทนในสินทรัพย์หุ้น
แนะนำผู้ที่สนใจลงทุนที่มีระยะเวลาถือครอง 2-3 ปี พิจารณาทยอยสะสม
กองทุนเด่น เช่น
UGIS-N กองแม่บริหารโดย PIMCO ที่เป็น บลจ. ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารตราสารหนี้โดยเฉพาะ บริหารจัดการแบบเชิงรุก และชนะ Benchmark ต่อเนื่อง