ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบเดือน Dow Jones -3.38%, S&P500 -3.34%, NASDAQ -2.40%, EU STOXX 600 -2.14% (ยุโรป), CSI300 -1.35% (จีน), Hang Seng -4.04%, TOPIX -4.02% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.91% (อินเดีย), VN100 -9.16% (เวียดนาม), SET -7.03%

2. ดัชนีตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงถ้วนหน้า ปัจจัยผลักดันหลักมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว ผลมาจากตัวเลขการจ้างงานและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังร้อนแรง ทำให้มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่นักลงทุนเคยเคยหวัง รวมถึงอาจยังขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการกู้ยืมของผู้บริโภคและบริษัทต่างๆ ในช่วงต่อจากนี้ (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

3. ความกังวลว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น จะส่งผลให้การบริโภคลดลง ยังทำให้ราคาน้ำมันร่วงแรงประมาณ 10% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาตลอดทั้งเดือนจากการที่ผู้ผลิตรายใหญ่ประกาศคงระดับการผลิตที่ต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามน้ำมันยังมีปัจจุยหนุนเฉพาะตัวจากสัญญาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในบางประเทศ (อ้างอิง)

4. ราคาทองก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน เมื่อนักลงทุนมีการเปลี่ยนไปถือพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนในระดับน่าดึงดูดใจ

5. หุ้นจีนยังปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยนอกจากแรงกดดันจากนโยบายการเงินฝั่งสหรัฐฯ แล้ว ยังมีปัจจัยเฉพาะตัว โดยเฉพาะปัญหาหนี้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามการบริโภคในประเทศดูเหมือนจะฟื้นตัวได้ดี และมีการพยายามปรับปรุงระเบียบการลงทุนของบริษัทต่างชาติให้ชัดเจนขึ้น (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

6. ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันทั้งจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะ เงินทุนไหลออกจากการแข็งค่าของค่าเงินสหรัฐฯ นอกจากนั้นมีเรื่องความกังวลกับมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้

การลงทุนน่าสนใจ

1. ภาวะความไม่แน่นอนเรื่องการปรับขึ้น/ลดอัตราดอกเบี้ย ที่เพิ่มมากขึ้นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้การลงทุนแบบเก็งกำไรยากยิ่งขึ้น
   แนะนำการลงทุนแบบสม่ำเสมอและกระจายความเสี่ยง โดยหนึ่งในตัวเลือกที่ง่ายที่สุดคือการลงทุนกับกองทุน index หุ้นโลก
   ที่ช่วยให้การลงทุนของเรา balance และเติบโตไปกับเศรษฐกิจโลกในระยะยาว แม้อาจเกิดการชะลอในบางประเทศ
   
   กองทุนเด่น เช่น
   SCBWORLD(A) ลงทุนในดัชนี iShares MSCI World ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ ที่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก,
   K-WORLDX ลงทุนในดัชนี iShares MSCI ACWI ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา,
   SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่ม technology เป็นหลัก

2. เศรษฐกิจจีนยังถูกฉุดจากภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่การบริโภคในประเทศมีทิศทางฟื้นตัว
   นอกจากนั้นทางการยังพยายามต่อเนื่องที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและตลาดทุน
   อาจพิจารณาดูความชัดเจนเพิ่มเติม หรือทยอยสะสมกองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก
   
   กองทุนเด่น เช่น
   SCBCHA ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี CSI300 ที่ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในจีนเป็นหลัก,
   BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS