ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบเดือน Dow Jones +6.41%, S&P500 +5.42%, NASDAQ +6.13%, EU STOXX 600 +4.94% (ยุโรป), CSI300 -2.83% (จีน), Hang Seng -4.63%, TOPIX +2.59% (ญี่ปุ่น), SENSEX +4.84% (อินเดีย), VN100 +2.58% (เวียดนาม), SET -2.78%

2. ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ​ และยูโรป ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีในเดือนที่ผ่านมา จากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ความคาดหวังดังกล่าง ยังส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบหลายปี (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

3. ราคาน้ำมันยังปรับตัวลง จากคาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันที่ลดลงในปีหน้า และกลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่าง OPEC+ ไม่ได้มีมาตรการลดปริมาณการผลิดลงจากปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังประเทศผู้ส่งออกนำมันรายใหญ่หลายประเทศออกมาประกาศว่าจะคงกำลังการผลิตในระดับต่ำ หรือลดการผลิดลงจนถึงต้นปีหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

4. ตลาดหุ้นจีนยังซบเซาและปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังตัวเลขดัชนีการผลิดยังคงหดตัว โดยดูเหมือนประชาชนจะจับจ่ายเพื่อซื้อสิ่งของน้อยลง แต่อาจใช้จ่ายกับภาคบริการมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ยังมีความหวังว่าปีหน้าตลาดหุ้นจีนจะทำผลงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

5. ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงถาวะทางเศรษฐกิจ หรือทางการเมืองอย่างมีนัยยะ ดูน่าสนใจเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นแข็งแกร่งหรือกองทุนดัชนี

การลงทุนน่าสนใจ

1. หนึ่งในตัวเลือกที่ง่ายที่สุด สำหรับการลงทุนแบบสม่ำเสมอและกระจายความเสี่ยง
   สามารถถือเพื่อลงทุนระยะยาว ในทุกสภาวะ คือการลงทุนกับกองทุน index หุ้นโลก
   ที่ช่วยให้การลงทุนของเรา balance และเติบโตไปกับเศรษฐกิจโลกในระยะยาว แม้อาจเกิดการชะลอในบางประเทศ
   
   กองทุนเด่น เช่น
   SCBWORLD(A) ลงทุนในดัชนี iShares MSCI World ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ ที่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก,
   K-WORLDX ลงทุนในดัชนี iShares MSCI ACWI ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา,
   SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่ม technology เป็นหลัก

2. สำหรับตลาดหุ้นจีน ผู้สนใจเก็งกำไรควรจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง
   โดยเตรียม shortlist กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจีน
   
   กองทุนเด่น เช่น
   SCBCHA ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี CSI300 ที่ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในจีนเป็นหลัก,
   BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน

3. สำหรับผู้ที่สนใจสะสมหุ้นไทยและเวียดนาม หลังดัชนีปรับตัวลงแรงกว่าดัชนีโลก
   สามารถพิจารณาได้ทั้ง ETF, DR, หรือกองทุนรวม
   
   ETF, DR, และกองทุน ที่น่าสนใจ เช่น
   KT-SET50-A กองทุนอิงดัชนี SET50 ค่าธรรมเนียมต่ำ ลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ 50 อันดับแรก,
   BSET100 ชื่อเต็ม BCAP SET100 ETF ลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ 100 อันดับแรก,
   PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
   E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
   FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS