เขียนเมื่อ: 03 March 2024
ขอประกาศว่า เราจะหยุดการเขียน newsletter รายเดือน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ขอขอบคุณ ผู้ที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน ตลอดช่วงที่ผ่านมา
การเขียน newsletter ที่เริ่มจาก รายสัปดาห์ และ เปลี่ยนเป็นรายเดือน ทำให้ผู้เขียนได้ติดตามข่าวสารในโลกการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
และนำไปสู่การตัดสินใจจะลดการติดตามข่าวสารระยะสั้นลง เพื่อเพิ่มเวลากับการพัฒนาเครื่องมือระยะยาว
โดยหลังจากนี้ เราจะใช้เวลาในการ เพิ่ม / ปรับปรุง / แปล เครื่องมือวางแผนการเงินต่างๆ ที่เราจัดทำขึ้น
เนื่องจากเราเชื่อว่า เครื่องมือวางแผนการเงินที่ใช้งานได้ง่าย จะช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างแผนทางการเงินที่มั่นคงสำหรับตัวเองได้ในระยะยาว
หากใครยังไม่เคยลองใช้ เครื่องมือวางแผนการเงินของเรา สามารถเข้าไปทดลองได้ที่ https://moneysart.com/tools/
การเคลื่อนไหวรอบเดือน Dow Jones +1.12%, S&P500 +3.60%, NASDAQ +4.13%, EU STOXX 600 +2.82% (ยุโรป), CSI300 +11.26% (จีน), Hang Seng +6.80%, TOPIX +6.68% (ญี่ปุ่น), SENSEX +2.46% (อินเดีย), VN100 +7.20% (เวียดนาม), SET -1.20%
หลายดัชนีทั่วโลก ได้แตะระดับสูงสุดในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้ง อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย จากสาเหตุเฉพาะตลาดๆ ต่างๆ กัน แต่ที่เป็นแรงผลักสูงสุดน่าจะมาจากกระแสการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนั้นการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมที่ลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย แม้อัตราดอกเบี้ยอาจจะคงตัวในระดับสูงต่อไป (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3, อ้างอิง4)
ตลาดหุ้นจีน แม้ไม่ได้ปรับตัวทำจุดสูงสุดเหมือนที่อื่น แต่ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังทางการจีนออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี ยังต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาเชื่อมั่น (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ตลาดหุ้นเวียดนาม เป็นอีกตลาดที่คนไทยจำนวนมากให้ความสนใจ ภาพรวมก็ปรับตัวขึ้น แต่ยังห่างจากจุดสูงสุด โดยหลายสำนักวิเคราะห์มองว่าเวียดนามจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอีกมาก หากสามารถผลักดันระบบตลาดทุนให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มตลาดกำลังพัฒนา ซึ่งเวียดนามตั้งเป้าเรื่องนี้ไว้ที่ปี 2025 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนครั้งใหญ่ เพิ่มเติมจากปัจจัยเชิงบวกที่มีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ, นโยบายการค้ากับต่างประเทศ, และโครงสร้างประชากร (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
แนะนำการลงทุนกับกองทุน index หุ้นโลก สำหรับการลงทุนแบบสม่ำเสมอและกระจายความเสี่ยง
สามารถถือเพื่อลงทุนระยะยาว ในทุกสภาวะ
ตั้งเป้าเติบโตไปกับเศรษฐกิจโลกในระยะยาว แม้อาจเกิดการชะลอในบางประเทศ
กองทุนเด่น เช่น
SCBWORLD(A) ลงทุนในดัชนี iShares MSCI World ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ ที่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก,
K-WORLDX ลงทุนในดัชนี iShares MSCI ACWI ETF ที่กระจายการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่ม technology เป็นหลัก
ตลาดหุ้นเวียดนาม เป็นที่หนึ่งที่มีความน่าสนใจ ทั้งเชิงมูลค่า และโอกาสในอนาคต โดยทยอยลงทุนได้ทั้ง ETF, DR, หรือกองทุนรวม
มีพื้นฐานความแข็งแกร่งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ, นโยบายการค้ากับต่างประเทศ, และโครงสร้างประชากร ที่น่าใจเติบโตได้อีกในระยะยาว
นอกจากนั้น ยังมีโอกาสได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น หากสามารถผลักดันระบบตลาดทุนให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มตลาดกำลังพัฒนา ตามที่ตั้งเป้าเรื่องนี้ไว้ที่ปี 2025
ETF, DR, และกองทุน ที่น่าสนใจ เช่น
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock