จัดพอร์ตให้เติบโตแบบมั่นคง
ด้วย Asset Allocation
เขียนเมื่อ: 20 April 2021
เกริ่นนำ
เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยิน คำว่า Asset Allocation แต่บางคนอาจยังไม่เชื่อในหลักการนี้.
ขอบอกว่า asset allocation นั้น สามารถช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้ โดยไม่บีบหัวใจระหว่างทางมากเกินไป.
(นอกจากว่าคุณจะเป็นกูรู ที่ชนะตลาดได้สม่ำเสมอ.)
Asset allocation ช่วยเราได้อย่างไร มาเรียนรู้กัน จากประวัติศาสตร์ตลาดทุน 20 ปี ล่าสุด.
ประเด็นที่ 1 – Asset Allocation ไม่เคยแพ้
สินทรัพย์แต่ละประเภท* ผลัดกันเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ ในแต่ละปี ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ.
ตัวอย่างเช่น
หุ้นเติบโตขนาดใหญ่ (Lg cap growth – สีส้ม) บางปีก็เป็นผู้ชนะ เติบโตได้ถึงกว่า 30%, แต่บางปีก็เป็นผู้แพ้ ติดลบกว่า 30% เช่นกัน.
ตราสารหนี้ (Fixed income – สีเขียวเข้ม) ก็เช่นกัน บางปีก็ชนะ, บางปีก็แพ้ ถึงเวลาแพ้ จะติดลบไม่มาก แต่เวลาชนะ ก็บวกไม่มากเช่นกัน.
ที่น่าสนใจคือ Div portfolio** หรือ การทำ asset allocation (จัดสรรพอร์ตลงทุน – สีม่วง) ไม่เคยแพ้เลย.
และนั่นเป็นข้อสำคัญ ที่จะทำให้คุณ อยู่ในการลงทุนได้ยาวนาน ใช้เวลาช่วยให้พอร์ตของคุณเติบโตอย่างมั่นคง.
*เป็นสินทรัพย์ในตลาดของสหรัฐอเมริกา
**Div portfolio: 35% U.S. Aggregate Bond Index (Fixed income), 10% MSCI EAFE Index (International stocks), 10% Russell 2000 Index (Small cap), 22.5% Russell 1000 Growth Index (Lg cap growth), 22.5% Russell 1000 Value Index (Lg cap value)
ประเด็นที่ 2 – เติบโตเต็มที่ ผันผวนแค่ครึ่งเดียว
รูปนี้แสดงผลลัพธ์ ถ้าเราลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ในช่วง 20 ปีล่าสุด ด้วยเงินลงทุน 100,000 USD (คิดว่าเป็นบาทละกันครับ).
การลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก (Small Cap) จะทำให้เงินลงทุนโตขึ้นเป็นกว่า 5 เท่า แต่คลื่นความผันผวนที่สูง (ค่า Standard Deviation มาก) อาจทำให้คุณตัดสินใจพลาด ถอดใจไปก่อนจนทำให้เสียโอกาส (ถ้าเงินเย็นจริงๆ และรับความผันผวนได้ นี่เป็นการลงทุนที่ดี).
การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (Cash) นั้นปลอดภัยที่สุด แต่เงินลงทุนของคุณเติบโตเพียง 35% ใน 20 ปี. ก็อาจไม่ใช่ทางเลือกการลงทุนที่ดีนัก.
ส่วนการจัดสรรพอร์ตลงทุน หรือ การทำ asset allocation นั้น ทำให้เงินลงทุนโตขึ้นเป็นเกือบ 4 เท่า โดยมีความผันผวนระหว่างทาง (ค่า Standard Deviation) แค่ครึ่งเดียวของ การลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก.
ประเด็นที่ 3 – ผลตอบแทนสูงสุด ที่คุ้มค่ากับความผันผวน
ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความผันผวน ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาวได้อย่างสบายใจ.
หากเรามาหาค่า ความคุ้มค่า (ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง) โดยใช้ ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Avg Ann Returns) หารด้วย ความผันผวน (Standard Deviation).
ตัวเลขนี้ ยิ่งมากยิ่งดี.
หากเราต้องการลงทุน ที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 6%.
จะเห็นว่า Diversified Portfolio (asset allocation) นั้น คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่สุด.
ถ้าผลตอบแทนระดับนี้สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาวได้ การทำ asset allocation นั้นจะทำให้คุณลงทุนได้อย่างสบายใจครับ.
สำหรับ คนที่ต้องการความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่สุด โดยไม่เน้นผลตอบ ที่ผ่านมา การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (Cash) นั้นก็ถือว่าคุ้มค่า.
แต่ต้องอย่าลืม ว่าตอนนี้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นนั้นอยู่ในช่วงที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียวครับ.