เขียนเมื่อ: 25 April 2021
ตลาดหุ้นมีการเปลี่ยนฝั่ง กลับมาดันตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน โดย Dow Jones -0.46%, S&P500 -0.13%, NASDAQ -0.25%, EU STOXX 600 -0.78% (ยุโรป), CSI300 +3.41% (จีน), TOPIX -2.34% (ญี่ปุ่น), VN100 (เวียดนาม) +1.09%, SET +0.30%
Bank of Canada ประกาศจะเริ่มลดการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลดขนาดการซื้อหนี้สาธารณะจากภาครัฐ แต่ยังคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ Canada ประเทศพัฒนาแล้ว ประเทศแรกที่ส่งสัญญาณนี้, ฝั่ง European Central Bank ประกาศยังคงนโยบายดอกเบี้ย และ QE ตามเดิม
ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ เตรียมเสนอ ขึ้นภาษีเงินได้กำไรจากการลงทุน (capital gain taxes) สำหรับผู้มีเงินได้ในส่วนนี้ตั้งแต่ 1 ล้านเหรียญ USD ต่อปี เป็น 39.6% จากเดิม 20% ต้องรอติดตามว่านโยบายนี้จะได้รับการอนุมัติหรือไม่ และจะส่งผลอย่างไรต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Cryptocurrency ยอดนิยมทั้งหมด ติดลบหนักในอาทิตย์ที่ผ่านมา Bitcoin -20%, Ethereum -8%, Dogecoin -30%; นอกจากการข่าวการจะขึ้นภาษี capital gain taxes ของ Joe Biden ก็ยังมีข่าวลือว่า Janet Yellen รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ต้องการให้มีการเก็บภาษี capital gain taxes จาก crypto ถึง 80% (ยังเป็นข่าวลือ)
ธนาคารกลางอังกฤษ เริ่มศึกษาการออก digital currency ของตัวเอง หลังจากหลายประเทศเริ่มมีการศึกษา และทดลองมาก่อน เช่น ประเทศในสหภาพยุโรป, จีน, รัสเซีย, บาฮามาส, รวมถึงไทย
อุตสาหกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ยังมีแนวโน้มได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทั่วโลก โดยสหรัฐฯ ได้เชิญผู้นำ 40 ประเทศทั่วโลกร่วมประชุมออนไลน์ในวันที่ 22 - 23 เมษายน เพื่อร่วมกันเสนอแนวนโยบายที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
CEO คนใหม่ของ Honda ประกาศจะทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็น 100% ของยอดผลิตรถทั้งหมด ภายในปี 2040 เป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายล่าสุดที่ประกาศเดินหน้าเต็มตัวกับอุตสาหกรรม Elevtric Vehicles
Ant Group กำลังหารือถึงการให้ Jack Ma ขายหุ้นที่มีออกไป เนื่องจากคาดว่าจะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลของจีนบรรเทาความเข้มงวดจากการตรวจสอบ และกลับเข้าสู่การพิจารณาเพื่อทำ IPO
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรปยังเป็นไปได้ด้วยดี โดยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (Jobless Claim) ต่ำสุดตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ราคาหุ้นในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลบวกจากการเปิดเมืองปรับตัวขึ้น เช่น Heineken (เครื่องดื่ม), Chipotle (ร้านอาหาร)
ผลประกอบการกลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดมาก ทำให้มีการปรับ EPS revision เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ PE ของดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารยังอยู่ในโซนถูก เทียบกับ Nasdaq แม้ดัชนีจะ outperform มาแล้วเกือบหกเดือน และมีแนวโน้มจะ outperform ต่อไปในช่วงนี้ โดยเฉพาะหากเงินเฟ้อขยับสูงขึ้นหลังจากนี้
Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลดลง มีแนวโน้มผลักดันหุ้นเติบโตได้ต่อ, ส่วนคาดการเงินเฟ้อยังคงตัว, สองปัจจัยนี้ ส่งผลให้ Real Yield ขยับลดลง เป็นผลให้ทองคำ ปรับตัวบวกได้เช่นกัน