สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 17 - 21 พฤษภาคม 2564

เขียนเมื่อ: 16 May 2021

ประเด็นน่าสนใจ

  1. ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ยกเว้นจีนและเวียดนาม โดย Dow Jones -1.14%, S&P500 -1.39%, NASDAQ -2.34%, EU STOXX 600 -1.71% (ยุโรป), CSI300 +2.29% (จีน), TOPIX -2.57% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.96% (อินเดีย), VN100 +2.54% (เวียดนาม), SET -2.24%

  2. โดยตลาดฝั่งตะวันตก ปรับตัวลดลงรุนแรงในวันอังคาร และวันพุธ เนื่องจากประกาศเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือนเมษายน ที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจพิจารณาลดมาตรการสนับสนุนทางการเงินและการคลัง (อ้างอิง)

  3. อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับมาปรับตัวเพิ่มในวันพฤหัสและศุกร์ หลังจาก FED ออกมาให้ข่าวว่า จะยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป และเชื่อว่าเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมากเป็นเรื่องชั่วคราว (อ้างอิง)

  4. ส่วนจีนและเวียดนาม ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบกับข่าวนี้ เนื่องมามีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้พึ่งพานโยบายการกระตุ้นของประเทศฝั่งตะวันตกมากนัก

  5. ด้านหุ้นเทคโนโลยีของจีน ยังไม่ฟื้นตัว แม้ราคาถือว่าปรับลงมาอยู่ในระดับถูก เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องการสอบสวน และการบังคับใช้กฎหมายการควบคุมการผูกขาด โดยมีบริษัทที่ถูกปรับโทษไปแล้ว หรืออยู่ในระหว่างตรวจสอบหลายบริษัท เช่น Alibaba, Tencent, Meituan

  6. ฝั่งเวียดนาม แม้จะมีข่าวการระบาดรอบใหม่ของ Covid-19 หลังจากไม่พบการระบาดมาหนึ่งเดือน แต่ดัชนียังปรับตัวเพิ่ม โดยนักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวก ทั้งทางด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ แนวโน้มการเติบโต โดยยอดการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในสี่เดือนแรกของปี 2021 เติบโตถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

  7. ตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวลงแรง ตั้งแต่วันอังคาร และยังไม่ฟื้นตัว เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุด ตั้งแต่มีการระบาดเมื่อปี 2020 โดยมีความกังวลว่าอาจเป็นสายพันธุ์อินเดีย ที่แพร่กระขายได้รวดเร็ว โดยไต้หวันเริ่มมีนโยบายให้ร้านค้าบางประเภทปิดทำการชั่วคราว (อ้างอิง)

  8. การแย่งชิงผู้ใช้ในธุรกิจ Digital Wallets ทวีความเข้มข้น โดย Google (Alphabet Inc.) ประกาศร่วมมือกับ Wise และ Western Union เปิดตัวช่องทางการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้ Google Pay เริ่มที่ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่สามารถโอนเงินให้ผู้ใช้ในอินเดีย และสิงคโปร์ได้ และจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ อย่างน้อย 200 ประเทศ ภายในสิ้นปี (อ้างอิง)

มุมมองนักลงทุนในตลาด (ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน, อ้างอิง)

  1. หากเชื่อตาม FED ว่าเงินเฟ้อในช่วงนี้เป็นเรื่องชั่วคราว และ FED จะยังใช้มาตรการการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ น่าจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อ เนื่องจาก Earning Yield Gap อยู่ที่ 3% ยังไม่แคบมากนักเมื่อเทียบกับข่วงหลังวิกฤติ Dot Com ปี 2000

  2. ตลาดหุ้นยุโรปน่าจะยังปรับตัวบวกได้ต่อไป โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังมีราคาถูก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  3. ตลาดหุ้นจีน มีราคาที่น่าสนใจ เนื่องจากท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นเศรษฐกิจที่ผลักดันการเติบโต GDP ของโลก โดยประเด็นการแทรกแซงจากภาครัฐน่าจะผ่อนคลายในระยะยาว นอกจากนั้นตราสารหนี้ก็ยังก็เป็นอีกสินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุน หากต้องการการเติบโตที่น่าสนใจ และมีความผันผวนต่ำ

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS