เขียนเมื่อ: 23 May 2021
ตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกยังมีทิศทางกลางๆ เป็นการหาจุดสมดุล ระหว่างความกลัวเงินเฟ้อ กับความเชื่อมั่นนโยบายการเงินผ่อนคลาย ซึ่งอาจมีส่วนหนุนให้ตลาดเอเชียได้รับความสนใจมากกว่าในอาทิตย์นี้ โดย Dow Jones -0.51%, S&P500 -0.43%, NASDAQ +0.31%, EU STOXX 600 +0.43% (ยุโรป), CSI300 +0.46% (จีน), TOPIX +1.13% (ญี่ปุ่น), SENSEX +3.71% (อินเดีย), VN100 +2.38% (เวียดนาม), SET +0.19%
รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณ ว่า FED อาจเริ่มใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น หากเห็นว่าการฟื้นตัวทางเริ่มมีความมั่นคง ซึ่ง FED ให้ความสำคัญกับจำนวนผู้มีงานทำที่ต้องการให้กลับมาใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิด Covid (ตอนนี้ 143 ล้านคน, ก่อน Covid อยู่ที่ 152 ล้านคน) โดยจะเริ่มจากการลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่าน QE (QE Tapering)
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปก็มีปัจจัยเรื่องหนี้เอกชน ที่ตอนนี้ Bond Yield ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตามระดับเงินเฟ้อ ส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชน
Janet Yellen รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็น สนับสนุนการขึ้นภาษีเรียกเก็บ จากบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ เพื่อช่วยมาตรการการลงทุนทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอ และคาดหวังให้เป็นการกระตุ้นทางอ้อมให้บริษัทต่างๆ เร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และผลกำไร อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะมีผลเชิงลบต่อตลาดหุ้น อย่างน้อยในระยะสั้น เนื่องจากผลกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนที่จะลดลง นอกจากนี้ Janet Yellen ยังสนับสนุนให้ประเทศอื่นๆ ขึ้นภาษีนิติบุคคลด้วยเช่นกัน (อ้างอิง)
Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าสหรัฐ จะให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีน Covid กับประเทศที่ขาดแคลน โดยจะเริ่มที่อย่างน้อย 20 ล้าน dose ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน หลังจากที่ขณะนี้ ประชากรผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีน dose แรกแล้ว (อ้างอิง)
ตลาดหุ้นฮ่องกง เตรียมปรับเกณฑ์และทยอยเพิ่มจำนวนหุ้นที่ประกอบเป็น Hang Seng Index จากปัจจุบันที่ 55 บริษัท เป็น 80 บริษัท เพื่อเพิ่มความหลากหลาย จากปัจจุบันที่มีน้ำหนักมากในกลุ่มสถาบันการเงิน และเทคโนโลยี โดยเริ่มที่ปรับสามบริษัทเข้า Index ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ประกอบด้วย BYD, Xinyi Solar Holdings, และ Country Garden Services Holdings (อ้างอิง)
Cryptocurrency ร่วงหนัก หลังมีหลายปัจจัยลบในอาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มด้วย (a) Tesla ออกมาประกาศเลิกรับชำระค่าสินค้าด้วย Bitcoin เนื่องจากใช้พลังงานมาก และ ecosystem ที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (อ้างอิง), (b) รัฐบาลจีนประกาศห้ามสถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับ Cryptocurrency และจะมีการห้ามการทำ Bitcoin mining รวมถึง Cryptocurrency trading อื่นๆ ด้วย (อ้างอิง1, อ้างอิง2), (c) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ พิจารณา ออกนโยบายให้มีการรายงาน Cryptocurrency transaction ที่มีมูลค่าเกิน $10,000 เพื่อดำเนินการด้านภาษี (อ้างอิง)
การแข่งขันในธุรกิจ Video Streaming เพิ่มความเข้มข้น หลัง AT&T กับ Discovery ประกาศ ร่วมจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยควบรวม WarnerMedia ของ AT&T กับ Discovery เข้าด้วยกัน โดยบริษัทใหม่ที่จัดตั้งจะมีมูลค่าการใช้จ่ายเพื่อสร้าง content สูงเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าเจ้าใหญ่ในธุรกิจ Streaming ปัจจุบันอย่าง Netflix และ Disney (อ้างอิง)
Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ประกาศร่วมมือกับ Samsung เพื่อพัฒนา Smartwatch ออกมาแข่งขันกับ Apple Watch ที่ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของตลาดในปัจจุบัน โดยจะพัฒนาระบบปฏิบัติการให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น, ประหยัด battery, และรองรับ apps ต่างๆ ของ Google ได้ (อ้างอิง)