สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 7 - 11 มิถุนายน 2564

เขียนเมื่อ: 06 June 2021

ประเด็นน่าสนใจ

  1. ตลาดหุ้นยัง risk on ปรับตัวบวกถ้วนหน้า โดย Dow Jones +0.66%, S&P500 +0.61%, NASDAQ +0.48%, EU STOXX 600 +0.80% (ยุโรป), CSI300 -0.73% (จีน), TOPIX +0.60% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.32% (อินเดีย), VN100 +3.66% (เวียดนาม), SET +1.87%

  2. ข่าวดีหุ้นตก ข่าวร้ายหุ้นขึ้น แสดงความบิดเบี้ยวระหว่างตัวเลขทางเศรษฐกิจจริงและดัชนีตราสารทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ นักลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวัง ตัวอย่างเช่น เมื่อวันพฤหัส ตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น (อ้างอิง) กดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัว เนื่องจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับดอกเบี้ยขึ้น แต่ตลาดกลับมาบวกได้ในวันศุกร์ หลังรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานยังต่ำกว่าเป้าหมาย (อ้างอิง)

  3. คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (European commission) ประกาศวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (หรือกว่า 9 แสนล้าน USD) ให้ 27 ประเทศสมาชิก EU นำไปดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่ง EU จะเริ่มกระจายวงเงินส่วนแรก (13% ของวงเงินทั้งหมด) ในไม่กี่เดือนข้างหน้า คำแถลงเน้นถึงการสร้างสังคมที่สะอาด ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ และแข็งแรง (to make [the] EU greener, more digital and resilient – อ้างอิง)

  4. รัฐบาลจีนประกาศปรับนโยบาย Two-Child Policy เป็น Three-Child Policy หลังอัตราการเด็กเกิดใหม่ในปี 2020 มีค่าต่ำสุดตั้งแต่ปี 1960 และกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (aging society) โดยรัฐบาลจีนคาดหวังให้มีจำนวนประชากรรุ่นใหม่มาช่วยผลักดันเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามผลสำรวจที่จัดทำออนไลน์บอกว่าชาวจีนส่วนมากไม่คิดว่าจะมีลูกสามคน (อ้างอิง)

  5. องค์กรควบคุมธุรกิจธนาคารและประกันของจีนอนุมัติให้ Ant Group ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลได้ โดยเป็นการตั้งบริษัทใหม่ที่ Ant Group เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Ant Group หลังการปรับโครงสร้างให้เป็น holding company และเป็นสัญญาณที่ดีว่า Ant Group สามารถจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ให้รัฐบาลจีนยอมรับ และจะนำไปสู่กระบวนการ IPO ต่อไป (อ้างอิง)

  6. องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศรับรองให้วัคซีน Sinovac สามารถใช้ได้ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน โดยแนะนำให้ใช้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป (อ้างอิง)

  7. สหรัฐฯ ประกาศแผนกระจายวัคซีน Covid จำนวน 25 ล้านโดส แก่ประเทศที่กำลังประสบปัญหาการควบคุมการระบาดของโรค ซึ่งรวมถึงไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนอื่นๆ โดยเป็นแผนกระจายวัคซีนล๊อตแรก จากเป้าหมายทั้งหมด 80 ล้านโดสที่สหรัฐฯ ประกาศว่าจะให้ความช่วยเหลือประเทศต่างๆ (อ้างอิง)

  8. SCB EIC หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็น 1.9% จากเดิม 2% เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ของ Covid โดยภาคการท่องเที่ยวยังคงได้รับกระทบหนัก อย่างไรก็ตามภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะที่ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (อ้างอิง)

มุมมองนักลงทุนในตลาด (ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน)

  1. ดัชนี MSCI China โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนทั่วโลก น่าสะสม หลังปรับตัวลงหนักในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และ side-way มาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม จนปัจจุบันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าทางการจีนมีแนวโน้มจะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดกับบริษัทใหญ่ที่ทำธุรกิจในจีนที่ หลังเป็นประเด็นกดดันมาหลายเดือน.

  2. ดัชนีหุ้น Vietnam ยังทำ new high อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยกดดันเรื่องการระบาดของ Covid ระลอกใหม่ แต่มีปัจจัยบวก ทั้งเรื่องแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคด และสภาพคล่องที่มากขึ้นจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศเวียดนามเอง ผู้สนใจอาจพิจารณาทยอยสะสม โดยแบ่งเงินทุนบางส่วนไว้ลงทุนเพิ่มเมื่อตลาดมีการปรับฐาน

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS