สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 19 - 23 กรกฎาคม 2564

เขียนเมื่อ: 18 July 2021

ประเด็นน่าสนใจ

  1. ตลาดหุ้นโดยรวมทรงตัว โดย Dow Jones -0.52%, S&P500 -0.97%, NASDAQ -1.87%, EU STOXX 600 -0.64% (ยุโรป), CSI300 +0.50% (จีน), TOPIX +1.04% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.44% (อินเดีย), VN100 -3.35% (เวียดนาม), SET +1.44%

  2. ดัชนีหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงประมาณ 10% ในรอบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา จากสถานการณ์การระบาดของ Covid ที่ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันแตะระดับ 4000 คน เพิ่มขึ้นจากอัตรา 300 คนต่อวัน เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว นักลงทุนที่สนใจลงทุนระยะยาวกับการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามอาจพิจารณาทยอยเข้าสะสม ส่วนผู้สนใจเก็งกำไรควรพิจารณาความเสี่ยงว่าสถานการณ์อาจแย่ลงได้ในระยะสั้น

  3. ไทยมียอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 10000 คน แล้ว และมียอดผู้เสียชีวิตรายวันเกิน 100 คน สถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมีความล่าช้าในการกระจายวัคซีน ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเติบโต GDP ของไทยในปีนี้เหลือ 1% (อ้างอิง)

  4. ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาเดือนมิถุนายน ประกาศออกมาที่ 5.4% สูงกว่าที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาชี้แจงในทันทีว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เนื่องจากตัวเลขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การจ้างงาน ยังไม่กลับมาสู่ระดับเป้าหมายที่ต้องการ รวมถึงยังคงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงในเดือนต่อๆ ไป (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

  5. สหรัฐฯ ประกาศคำสั่งประธานาธิบดี (Executive Order) เพื่อป้องกันการผูกขาดของบริษัทขนาดใหญ่ ให้มีการแข่งขันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่น่ามีผลกระทบต่อตลาดหุ้นเหมือนการดำเนินการควบคุมบริษัท tech ยักษ์ใหญ่ของจีน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ Joe Biden พูดถึงตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง (อ้างอิง)

การลงทุนน่าสนใจ ยังเหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมา (ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน)

  1. หุ้นจีนขนาดใหญ่ เนื่องจากการเติบโตเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นบวก นักลงทุนระยะกลางถึงยาว สามารถพิจารณาช่วงที่ตลาดยังโดนกดดันเป็นจังหวะสะสม กองทุนเด่นๆ เช่น K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก, KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares), WE-CHIG ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนขนาดเล็ก-กลาง ที่มีโอกาสเติบโตสูง ไปพร้อมกับการบริโภคในประเทศจีน

  2. หุ้นฝั่งอเมริกาและยุโรปยังที่ยังได้รับแรงหนุนจากนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย และการปรับเพิ่มประมาณการณ์ผลกำไรของหุ้นบริษัทใหญ่ อย่างไรก็ตามต้องติดตามท่าทีของ Fed อย่างต่อเนื่อง กองทุนเด่นๆ เช่น TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก, ONE-UGG-RA ลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงทั่วโลก

  3. เวียดนามยังย่อตัว จากสถานการณ์การระบาดของ Covid ที่มีกดดดันมากขึ้น อาจเป็นโอกาสทยอยสะสม รวมถึงอาจจับตาดูเพื่อเพิ่มสัดส่วนลงทุน หากมีการปรับตัวลงอีก กองทุนเด่น เช่น PRINCIPAL VNEQ-A ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในหมวดกองทุนเวียดนามในไทย ในรอบปีที่ผ่านมา

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS