เขียนเมื่อ: 01 August 2021
ตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวลดลง โดยแต่ละภูมิภาคมีปัจจัยต่างๆ กัน เช่น การคารการณ์ชะลอการเติบโตของหุ้นในสหรัฐฯ, การควบคุมจากภาครัฐของจีน, และการระบาดของ Covid ในประเทศแถบอาเซียน โดย Dow Jones -0.36%, S&P500 -0.37%, NASDAQ -1.11%, EU STOXX 600 +0.05% (ยุโรป), CSI300 -5.46% (จีน), TOPIX -0.17% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.73% (อินเดีย), VN100 +3.34% (เวียดนาม), SET -1.50%
ยอดผู้ติดเชื้อ Covid รายวันในไทยปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ระดับ 20000 คน/วัน มีแนวโน้มเข้าสู่ระดับ worst case ตามประมาณการณ์ของศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีที่คาดการณ์อัตราผู้ติดเขื้อจะปรับตัวสูงขึ้นจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ที่ระดับเกือบ 25000 คน/วัน (อ้างอิง)
หุ้นจีนร่วงหนักเมื่อวันจันทร์-พุธ หลังทางการจีนออกมาตรการควบคุมเพิ่มเติมกับบริษัทในตลาดหุ้น ล่าสุดกลุ่มสถาบันกวดวิชา โดยจะห้ามไม่ให้มีการทำกำไรจากการสอนวิชาที่มีสอนในโรงเรียน และห้ามให้มีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นมาตรการที่รุนแรงมากกว่าที่มีก่อนหน้ากับบริษัทขนาดใหญ่กลุ่มอื่นๆ ทำให้นักลงทุนขายหุ้นจีนในทุกภาคส่วน เนื่องจากความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจมีมาตรการที่เข้มงวดแบบนี้ออกมาใช้กับอุตสาหกรรมอื่นด้วย (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ทางการจีนออกมาชี้แจงทันทีช่วงวันพุธ-พฤหัสบดี ว่าการควบคุมกลุ่มธุรกิจการศึกษานั้น มีไปเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และไม่ได้มีจุดประสงค์จะด้อยค่าระบบตลาดทุนของจีน นอกจากนั้นสื่อของจีนมีการรายงานว่าราคาหุ้นของบริษัทจีนโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าลงทุน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางสถาบันแนะนำให้นักลงทุนดูท่าทีอีก 2-3 สัปดาห์ ว่านักลงทุนสถาบันต่างๆ จะมีการปรับประมาณการอย่างไร (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3, อ้างอิง4)
หุ้นเทคขนาดใหญ่ ทั้ง Alphabet (Google), Amazon, Apple, Facebook, Microsoft ผลประกอบการแกร่ง กำไรต่อหุ้นเติบโต 40%-100% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ภาพรวมราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าการเติบโตจะชะลอตัวหลังเติบโตสูงมาหลาย quarter รวมถึงแรงหนุนจากพฤติกรรมออนไลน์ของผู้บริโภคจะลดลงหลังสถานการณ์ Covid คลี่คลายมากขึ้น
กองทุนหุ้น big tech ที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมอย่าง cloud, online marketing ยังมี runway ของการเติบโตอีกยาว ความร้อนแรงที่ชะลอลงในช่วงนี้อาจเป็นโอกาสสะสมสำหรับผู้ชื่นชอบกลุ่มนี้
กองทุนเด่น เช่น
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
KFHTECH-A ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตโดดเด่น,
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก
หุ้นจีนปรับตัวครั้งนี้ เป็นโอกาสทยอยสะสมที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากการเติบโตของการบริโภคในประเทศจีนยังแข็งแกร่ง สำหรับผู้ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น อาจพิจารณารอให้ความผันผวนลดลงในอีก 2-3 สัปดาห์ (บทวิเคราะห์เพิ่มเติมจาก TMBAM Eastspring)
กองทุนเด่น เช่น
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
WE-CHIG ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนขนาดเล็ก-กลาง ที่มีโอกาสเติบโตสูง ไปพร้อมกับการบริโภคในประเทศจีน