เขียนเมื่อ: 15 August 2021
ตลาดหุ้นยังปรับตัวขึ้น นำโดยผลประกอบการที่ดีของบริษัทในตลาดพัฒนาแล้ว ส่วนความกังวล Covid ในภาพรวมของโลกก็ผ่อนคลายลง โดย Dow Jones +0.87%, S&P500 +0.71%, NASDAQ -0.09%, EU STOXX 600 +1.24% (ยุโรป), CSI300 +0.50% (จีน), TOPIX +1.40% (ญี่ปุ่น), SENSEX +2.14% (อินเดีย), VN100 +0.85% (เวียดนาม), SET +0.43%
ยอดผู้ติดเชื้อ Covid รายวันในไทยยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะขึ้นไปแตะระดับ 45,000 คน/วัน ในเดือนกันยายน ก่อนที่จะค่อยลดลง หากใช้ระดับมาตรการ lockdown แบบในปัจจุบันต่อไป ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีเคยคาดการณ์ ซึ่งอาจมีผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ต่ำกว่าระดับ 1% ที่หลายสถาบันคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมของอเมริกาชะลอตัว เทียบกับเดือนก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนค่อนข้างแน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังไม่มีมาตรการเข้มงวดออกมาแบบกะทันหัน และมีปัจจัยหนุนอีกเรื่องคือการแพร่ระบาดของ Covid สายพันธุ์ใหม่ที่อาจทำให้ Fed ตัดสินใจคงมาตรการผ่อนคลายต่อไปก่อน ซึ่งจะมีความกระจ่างมากขึ้นหลังการประชุม Fed ปลายเดือนนี้ (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
ตลาดพัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา และยุโรป มีแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid สายพันธุ์ใหม่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากสามารถกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้ทั่วถึง โดยยุโรปมีความน่าสนใจกว่าเนื่องจากมี earnings surprise สูงกว่าในการประการผลประกอบการรอบที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมกลุ่ม healthcare มี earnings surprise สูงกว่ากลุ่มอื่น (อ้างอิง)
การลงทุนในบริษัทจีนยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางการจีนประกาศว่าจะมีการตรวจสอบและควบคุมอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเข้มงวดในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะกดดันนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากที่ลงทุนในบริษัทจีน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางส่วนให้ความเห็นว่าการพยายามสื่อสารให้ชัดเจนขึ้นของรัฐบาลจีนนั้นช่วยทำให้นักลงทุนเข้าใจแรงจูงใจของทางการจีนมากขึ้น และคลายความกังวลลง (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
กองทุนหุ้นอเมริกาและยุโรปยังมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตดี
โดยเฉพาะฝั่งยุโรปที่ผลประกอบการมี earnings surprise มากกว่า
กองทุนเด่น เช่น
KFHTECH-A ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตโดดเด่น,
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
KF-EUROPE ลงทุนในหุ้นเติบโตขนาดใหญ่ของยุโรป
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระยะยาวยังคงน่าสนใจ แต่ปัจจัยกดดันจากภาครัฐอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ตั้งใจลงทุนระยะสั้น
ท่านที่มีอัตราส่วนหุ้นจีนจำนวนมากอาจพิจารณาปรับสัดส่วนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
นักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงบริษัทที่ถูกทางการเพ่งเล็ง อาจพิจารณากองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีนเอง
กองทุนเด่น เช่น
KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
WE-CHIG ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนขนาดเล็ก-กลาง ที่มีโอกาสเติบโตสูง ไปพร้อมกับการบริโภคในประเทศจีน
สถิติดัชนี S&P500 ตั้งแต่ปี 2009 ชี้ว่าเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำที่สุด ผู้ต้องการลงทุนแบบจับจังหวะในช่วงนี้อาจพิจารณาชะลอการลงทุนบางส่วนเพื่อดูท่าทีของตลาดหลังการประชุม Fed ช่วงปลายเดือน – Finnomena มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง Aug2021