สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 8 - 12 พฤศจิกายน 2564

เขียนเมื่อ: 07 November 2021

ประเด็นน่าสนใจ

  1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +1.42%, S&P500 +2.00%, NASDAQ +3.05%, EU STOXX 600 +1.67% (ยุโรป), CSI300 -1.35% (จีน), TOPIX +2.01% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.28% (อินเดีย), VN100 +0.93% (เวียดนาม), SET +0.17%

  2. เริ่มด้วยญี่ปุ่น ที่ได้ผู้นำรัฐบาลเดิม คือ พรรค LDP ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้ Fumio Kishida เตรียมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศแผนไว้ก่อนหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

  3. นักวิเคราะห์สหรัฐฯ คาดการณ์ว่าดัชนีหลักของอเมริกาจะยังเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อไป จาก momentum เชิงบวกของผลประกอบการ และการที่ธนาคารกลางมีท่าทีประนีประนอมกับตลาดหุ้น นอกจากนั้น ดัชนีคำสั่งซื้อของผู้ประกอบการ (PMI) ในภาพรวม ทั้งฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

  4. ตลาดเวียดนามก็ค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังตัวเลข PMI กลับมาแสดงการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากเศรษฐกิจหดตัวตลอดไตรมาส 3 เนื่องจากการ lock down (อ้างอิง)

  5. จีนยังคุมเข้ม covid เพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ อาจส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ หากมีการปิดบริเวณบ่อยขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับประมาณการผลกำไรของตลาดเริ่มดีขึ้น รวมทั้งตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีกว่าฝั่งอเมริกาและยุโรปในปีหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

  6. อีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นฝั่งอเมริกา คือ ร่างกฎหมายปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ถูกเสนอผ่านสภา เตรียมให้ประธานาธิบดีลงนาม โดยจะครอบคลุมการลงทุนมูลค่า 1 ล้านล้าน USD ที่เน้นการสร้าง และซ่อมบำรุง ระบบขนส่ง เครือข่ายการสื่อสาร และสาธารณูปโภค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงาน (อ้างอิง)

การลงทุนน่าสนใจ

  1. ญี่ปุ่นยังน่าสะสม โดยเฉพาะจากนี้ ที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ออกมาแน่นอน ภายหลังการเลือกตั้งรู้ผลชัดเจน ยังเป็น call ต่อเนื่องที่ Finnomena มองว่ามีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีจากแรงหนุนด้านนโยบายของรัฐบาลใหม่
    อ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความ Finnomena สะสม KF-HJAPAND อีกครั้งหลังญี่ปุ่นยุบสภาและดัชนียืนเหนือเส้น 200 วัน

    กองทุนเด่น เช่น
    K-JPX ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี TOPIX ที่แสดงภาพรวมของตลาดหุ้นญี่ปุ่น,
    SCBNK225 ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี Nikkei225 ที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของบริษัทขนาดใหญ่,
    KF-HJAPAND ลงทุนแบบ active โดยไม่ยึดติดกับดัชนีเน้นการสร้างผลตอบแทนรวมที่ดี

  2. ร่างกฎหมายปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐอเมริกา ส่งปัจจัยเชิงบวกต่อกองทุน infrastructure
    นอกจากนั้นกระแสให้ความสำคัญ infrastructure ที่ช่วยสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนยังมาแรงต่อเนื่อง

    นักลงทุนที่สนใจ สามารถพิจารณาลงทุนในกองทุน เช่น KFINFRA-A ที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากทั้งสองแรงหนุน
    อ่านเพิ่มเติม บทความ รีวิวกองทุน KFINFRA-A: คว้าโอกาสลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่

  3. Momentum ของตลาดหุ้นที่เราสนใจในภาพรวม (ยกเว้นจีน) ยังเป็นขาขึ้น และ Fed ก็มีท่าทีประนีประนอมไม่เปลี่ยนไป
    อาจจะไม่ใช่ช่วงสำหรับลงทุนไม้ใหญ่ๆ แต่ผู้สนใจกองทุนที่เน้นการเติบโตระยะยาวยังสามารถทยอยสะสมได้ต่อเนื่อง

    กองทุนเด่น เช่น
    TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
    B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
    PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามเชิงรุกที่มีผลตอบแทนโดดเด่นที่สุดรอบปีที่ผ่านมา

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS