ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -0.94%, S&P500 -1.22%, NASDAQ -2.62%, EU STOXX 600 -0.28% (ยุโรป), CSI300 +0.84% (จีน), TOPIX -1.37% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.03% (อินเดีย), VN100 -3.63% (เวียดนาม), SET -1.39%

2. ดัชนีหลัก ยังคงปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากการระบาดที่ขยายวงกว้างขึ้นของ Covid สายพันธุ์ Omicron และความไม่ชัดเจนของความรุนแรง โดนตอนนี้มีการพบผู้ติดเชื้อในกว่า 20 ประเทศ รวมถึงในอเมริกา โดยความผันผวนอาจจะยังคงมีต่อไปอีกระยะ เนื่องจากนักลงทุนรอมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะออกมาช่วงกลางเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ของ Barclays ให้ความเห็นแนะนำให้ลงทุนเพิ่ม เนื่องจากสภาพคล่องที่ยังมีล้นตลาดจะกลับมาผลักดันราคาสินทรัพย์ต่อ หลังความกังวลเริ่มคลี่คลาย (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

3. มีแนวโน้มว่า Fed จะดำเนินแผนปรับมาตรการางการเงินให้เข้มงวดขึ้นตามแผน หรืออาจจะเร็วกว่าแผนก่อนหน้า ซึ่งจะมีผลกดดันให้ตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเข้าสู่ mode risk-off สาเหตุจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุด Fed ออกมาให้ความเห็นว่าเรื่องเงินเฟ้อดูจะไม่ใช่เรื่องชั่วคราว โดยนักวิเคราะห์มองว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะออกมาให้ความเห็นในเชิงเดียวกัน (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

4. นักลงทุนทยอยเข้าสู่ mode risk-off กันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ตลาด cryptocurrency ที่ก่อนหน้านี้ คนเริ่มคิดว่าจะกลายมาเป็น Digital Goal ที่เป็น Safe Heaven ของการลงทุน โดยเมื่อวันศุกร์ cryptocurrency สกุลหลัก ปรับตัวลงกันทั้งกระดานประมาณ -15% เป็นอย่างน้อย (อ้างอิง)

5. นักวิเคราะห์จากหลายภาคส่วน เช่น Jim Cramer จาก CNBC และนักกลยุทธ์จาก JPMorgan ออกมาให้ความเห็นว่า Covid Omicron จะค่อยๆ ลดความน่ากังวลลง และนี่เป็นโอกาสดีที่จะเข้าลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่ง (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

การลงทุนน่าสนใจ

1. ทีมงาน Finnomena ยังมีมุมมองว่าหุ้น ยังมีความน่าสนใจในการลงทุน โดยวัฏจักรเศรษฐกิจภาพรวมยังขยายตัว แม้ Omicron จะสร้างความกดดัน โดยนักลงทุนที่ต้องการควบคุมความเสี่ยง อาจลดสัดส่วนกองทุนหุ้นลงบ้าง (อ้างอิง1)
   
   อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่า Covid Omicron จะค่อยๆ ลดความน่ากังวลลง และการปรับตัวลงครั้งนี้ อาจเป็นโอกาสให้สะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่ง (อ้างอิง2)
   
   โดยเราแนะนำผู้สนใจ ว่าสามารถลงทุนเพิ่มในกองทุนบริษัทเทคโนโลยีที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันสูง และมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง
   
   กองทุนเด่น เช่น
   TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
   B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี

2. โอกาสสะสมกองทุนเวียดนามเพิ่มอีกครั้ง หลังดัชนีปรับตัวลงรุนแรงเมื่อวันศุกร์ จากปัจจัยระยะสั้น
   ภายหลังฝั่งรัฐบาลออกมาให้ข่าวว่า Covid Omicron อาจส่งผลให้ต้องเลื่อนการเปิดประเทศออกไป (อ้างอิง)
   แต่เมื่อมองปัจจัยการเติบโตระยะยาวแล้ว เราแนะนำว่าผู้สนใจว่าสามารถมีติดพอร์ตเพื่อถือลงทุนได้ในระยะยาว
   
   กองทุนเด่น เช่น
   PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามในไทยที่มีผลตอบแทนโดดเด่นที่สุดรอบปีที่ผ่านมา

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS