เขียนเมื่อ: 18 December 2021
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -1.69%, S&P500 -1.94%, NASDAQ -2.95%, EU STOXX 600 -0.35% (ยุโรป), CSI300 -1.99% (จีน), TOPIX +0.46% (ญี่ปุ่น), SENSEX -3.02% (อินเดีย), VN100 +0.86% (เวียดนาม), SET +1.45%
ตลาดทุนรับความกดดันสองด้าน ทั้งจากอัตราการแพร่กระจายของ Covid สายพันธุ์ Omicron ที่รวดเร็ว แม้แนวโน้มผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง และจากตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นของทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ออกแถลงการณ์ว่าจะลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า รวมถึงมีโอกาสจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
ฝั่งธนาคารกลางของยุโรป (ECB) ก็มีแถลงการณ์จะลดวงเงินซื้อสินทรัพย์กระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน แต่มีทีท่าว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป ก่อนจะพิจารณาอีกครั้งหลังอัตราเงินเฟ้อนิ่งขึ้น โดยเฉพาะการที่ภูมิภาคยุโรปมีการระบาดของ Covid สายพันธุ์ Omicron ที่รุนแรง (อ้างอิง)
นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดจะยังคงผันผวนหนักต่อไปในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ที่จะถึง หลังจากดัชนีหลักผันผวนรุนแรงในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนจากหลายปัจจัย โดยยังมีลุ้นปัจจัยบวกจากทางฝั่งจีนที่จะมาช่วยผลักดันภาพรวมของตลาดโลก อย่างไรก็ตามยังแนะนำให้นักลงทุน stay fully invested โดยจัดพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสม (อ้างอิง)
ช่วงเวลาที่ตลาดตกใจแบบนี้ เป็นจังหวะน่าสนใจที่จะลงทุนเพิ่มในกองทุนบริษัทที่แข็งแกร่ง
เราเชื่อว่ากองทุนที่มีผลงานดีสม่ำเสมอ และลงทุนในบริษัทที่มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีนั้นจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
จึงยังแนะนำให้นักลงทุนที่สนใจใช้โอกาสนี้สะสมเพิ่ม
กองทุนเด่น เช่น
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
เวียดนาม ยังน่าสะสมเพื่อลงทุนระยะยาวต่อไป
โดยภาพรวมปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด Forward P/E ปี 65 ของดัชนี VN30 อยู่ที่ 12.3 เท่า และมีอัตราการเติบโตของ EPS ถึง 15.1%YoY
กองทุนเด่น เช่น
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามในไทยที่มีผลตอบแทนโดดเด่นที่สุดรอบปีที่ผ่านมา