เขียนเมื่อ: 09 January 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -0.29%, S&P500 -1.87%, NASDAQ -4.53%, EU STOXX 600 -0.32% (ยุโรป), CSI300 -2.39% (จีน), TOPIX +0.17% (ญี่ปุ่น), SENSEX +2.56% (อินเดีย), VN100 +1.01% (เวียดนาม), SET +0.00%
ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับฐานพอสมควร โดยเฉพาะหุ้นเติบโตที่ผลประกอบการปัจจุบันยังไม่แข็งแกร่งนัก โดยกลุ่มพลังงาน และธนาคาร กลับมานำตลาดแทน (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
คาดว่าความผันผวนจะ stabilize ในอาทิตย์ที่จะถึง เมื่อเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ก็ยังเชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ที่ผลประกอบการมั่นคง จะสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อไป บริษัทเด่นๆ เช่น Apple, Cisco, IBM, Microsoft and Oracle (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
หลายๆ บริษัทการลงทุนชั้นนำ เช่น JPMorgan, BlackRock, Allianz, Invesco, Amundi ออกมุมมองการลงทุนปี 2022 โดยมองเชิงบวกกับการลงทุนในกลุ่ม ESG และกลุ่ม Emerging Markets โดยเฉพาะจีน
บริษัทการลงทุนชั้นนำจำนวนมาก เชื่อว่าการลงทุนในกลุ่ม ESG จะเติบโตได้ดีในปี 2022 และต่อไปในระยะยาว
เนื่องจากทั่วโลกจะสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากมากขึ้นเรื่อยๆ
กองทุนเด่น เช่น
MRENEW-A บริหารแบบเชิงรุก ลงทุนได้ทั่วโลก ในบริษัทเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง,
P-CGREEN เน้นลงทุนในบริษัทจีน ที่ครอบคลุมบริษัทที่ทำเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงรถพลังงานไฟฟ้า
กลุ่ม Emerging Markets โดยเฉพาะจีน ก็ได้รับความสนใจมุมมองเชิงบวกจากบริษัทการลงทุนชั้นนำ
จากการเติบโตที่จะดีขึ้นในปี 2022 และมูลค่าที่ถูกกว่า
กองทุนเด่น เช่น
PRINCIPAL APDI ลงทุนได้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มุ่งลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับ ตลาดโดยรวม,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีนั้นเกิดขึ้นต่อไปแน่ การลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งยังคงสามารถสะสมได้เรื่อยๆ
สามารถทยอยสะสม หรือรอจังหวะปรับฐานหากต้องการลงทุนไม้ใหญ่
กองทุนเด่น เช่น
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี