เขียนเมื่อ: 22 January 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -4.58%, S&P500 -5.68%, NASDAQ -7.55%, EU STOXX 600 -1.40% (ยุโรป), CSI300 +1.11% (จีน), TOPIX -2.55% (ญี่ปุ่น), SENSEX -3.57% (อินเดีย), VN100 -2.04% (เวียดนาม), SET -1.19%
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวรายสัปดาห์ลงแรงที่สุดร่วงตั้งแต่ปี 2020 นักลงทุนรอฟังแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อีกครั้งในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
รอลุ้นประกาศผลประกอบการณ์หุ้นเทค หลัง big name รายแรกอย่าง Netflix ร่วงหนัก จากอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง นอกจากนั้นยังพาหุ้นบริษัทอื่นในกลุ่ม video streaming ร่วงตามไปด้วย จากความกังวลว่ากระแส work-from-home จะซาลงแล้ว อย่างไรก็ตามยังมี big tech อีกหลายบริษัทที่ได้คาดว่าจะเติบโตได้ต่อไป (อ้างอิง)
ธนาคารกลางของจีน (PBoC) ปรับดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็นครั้งที่สองในปีนี้ ส่งสัญญาณแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นเติบโตของจีนปรับตัวบวกแรง (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ราคาน้ำมันทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่หลัง Covid เริ่มระบาด โดย WTI ปรับตัวสูงกว่า $85 แล้ว นอกจากนี้ Goldman Sachs ออกมาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปแตะระดับ $100 ในช่วงปี 2022-2023 อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ นักเก็งกำไรควรใช้ความระมัดระวัง (อ้างอิง)
ยังแนะนำสะสมกลุ่ม Emerging Markets โดยเฉพาะจีน ที่มี momemtum ดีขึ้น จากแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นเวียดนามที่อยู่ใน Frontier Market ก็มีความน่าสนใจจากระดับมูลค่าและแนวโน้มการเติบโต
กองทุนเด่น เช่น
PRINCIPAL APDI ลงทุนได้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มุ่งลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับ ตลาดโดยรวม,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน
ผู้ที่สนใจสะสมหุ้นเทคโนโลยีลงทุนระยะยาว สามารถทยอยสะสมกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่ง
อาจพิจารณาชะลอการลงทุนไม้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจรอดูแนวโน้มภาพรวมการประกาศงบของบริษัทที่สำคัญ
กองทุนเด่น เช่น
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี