เขียนเมื่อ: 05 February 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +1.05%, S&P500 +1.55%, NASDAQ +2.38%, EU STOXX 600 -0.73% (ยุโรป), CSI300 +0.00% (จีน), TOPIX +2.86% (ญี่ปุ่น), SENSEX +2.53% (อินเดีย), VN100 +0.00% (เวียดนาม), SET +2.12%
ภาพรวมผลประกอบการหุ้นขนาดใหญ่ล่าสุดยังหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น นำโดย Amazon เป็นตัวชูโรงของสัปดาห์ ต่อจาก Alphabet เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดก็พร้อมเทขายหุ้นบริษัทที่ประกาศผลตอบแทนน้อยกว่าคาดการณ์ เช่น Meta (Facebook) ที่ปรับตัวลงกว่า 25% ภายในวันเดียว สะท้อนว่าอัตราดอกเบี้ยที่กำลังปรับตัวขึ้นทำให้หมดช่วงที่หุ้นเติบโตจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบสองปี หลังประกาศอัตราการจ้างงานเพิ่มที่สูงกว่าคาดการณ์ผลักดันคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดกว่าที่วางแผนไว้ ต้องจับตาดูรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้าว่าจะกดดันให้ Fed ขยับตัวไปในทางไหนต่อไป นอกจากนั้นยังมีบริษัทสำคัญอย่าง Coca-Cola, Walt Disney, Pfizer ที่จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์ที่จะถึงเช่นกัน (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
ราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี กดดันให้รัฐบาลของ Joe Biden ต้องพยายามหามาตรการควบคุม แม้จะยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร หากราคาน้ำมันยังพุ่งสูงขึ้นก็จะมีผลต่อเงินเฟ้อและกดดันดัชนีหุ้นต่อไปอีกในช่วงนี้ (อ้างอิง)
ฝั่งยุโรปเริ่มส่งสัญญาณว่ามีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เช่นกัน หลังอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งท่าทีที่เปลี่ยนไปของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นทันที ต้องรอดูในสัปดาห์หน้าว่าจะมีผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวไปในทิศทางใด (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
สภาพตลาดที่พร้อมให้รางวัล หรือลงโทษบริษัท ตามผลประกอบการอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ยังทำให้ควรเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง หากชอบกลุ่มเติบโต เรายังแนะนำกลุ่มบริษัทชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์โดดเด่น และผลประกอบการดีสม่ำเสมอมายาวนาน
กองทุนเด่น เช่น
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
จีนและเวียดนามปิดทำการเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เรายังแนะนำสะสมกลุ่ม Emerging Markets และ Frontier Market อย่างเวียดนาม จากการเติบโตที่จะดีขึ้นในปี 2022 และมูลค่าที่ถูกกว่ากลุ่ม Developed Market
นอกจากนั้น แรงซื้อหนาแน่นในตลาด Hang Seng ของฮ่องกงที่กลับมาเปิดเมื่อวันศุกร์ ก็เป็นสัญญาณว่า fund flow พร้อมจะกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมีปัจจัยกระตุ้น
กองทุนเด่น เช่น
PRINCIPAL APDI ลงทุนได้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มุ่งลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับ ตลาดโดยรวม,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน