ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -1.90%, S&P500 -1.58%, NASDAQ -1.76%, EU STOXX 600 -1.87% (ยุโรป), CSI300 +1.08% (จีน), TOPIX -1.95% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.55% (อินเดีย), VN100 -0.13% (เวียดนาม), SET +0.82%

2. หุ้นไทยแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มดัชนีหลักที่เราติดตาม โดยเป็นดัชนีเดียวที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าตอนต้นปี และยังมี momentum ดีกว่าดัชนีอื่นๆ ภายหลังมีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากที่ไม่เห็นมาหลายปี เป็นปัจจัยบวกกับหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร (อ้างอิง)

3. ความตึงเครียดบริเวณเขตแดนรัสเซีย-ยูเครน ยังทรงตัว ความไม่แน่นอนกดดันให้ตลาดอเมริกาและยุโรปปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าความกดดันเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดน้อยลง (อ้างอิง)

4. ราคาน้ำมันมีโอกาสชะลอความร้อนแรง ภายหลังสหรัฐฯ พยายามบรรลุข้อตกลงให้อิหร่านสามารถปล่อยน้ำมันออกสู่ตลาดโลก เพื่อความกังวลของตลาดพลังงานโลกจากความตึงเครียดบริเวณเขตแดนรัสเซีย-ยูเครน โดยยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และราคาน้ำมันอาจปรับตัวทะลุ $100/barrel หากไม่สามารถเพิ่มปริมาณของ supply ในตลาดได้ (อ้างอิง)

5. สถาบันการลงทุนระดับโลกจำนวนมากมีมุมมองที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อสถานการณ์ตลาดทุนจีน และคาดว่ารัฐบาลจีนจะมีมาตรการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นสถาบันเหล่านี้ยังมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อสภาวะการลงทุนโดยรวมของตลาดในจีน ภายหลังรัฐฯ เข้ามาจัดระเบียบตลาดทุนให่มีเสถียรภาพมากขึ้น (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

การลงทุนน่าสนใจ

1. Fund flow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยหลังจากห่างหายไปหลายปี มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยในอีกระยะหนึ่ง
   ทำให้หุ้นไทยมีความน่าสนใจในระยะกลาง โดยเฉพาะความผันผวนของตลาดทุนในภูมิภาคอื่นอาจเป็นปัจจัยเสริมให้นักลงทุนย้ายเงินลงทุนมาในแถบ ASEAN
   เป็นผลดีต่อบริษัทขนาดใหญ่ที่รับเงินลงทุนจากต่างประเทศได้
   
   กองทุนเด่น เช่น
   TMB50 เป็นกองทุน passive ตาม SET50 มีค่าบริหารต่ำ และไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อขาย

2. ตลาดจีนได้รับการปรับมุมมองจากสถาบันการลงทุนต่างประเทศเป็นเชิงบวกมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตระยะยาวแล้วยังน่าสะสมต่อไป
   
   กองทุนเด่น เช่น
   K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
   KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares)

3. สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำกองทุนที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำยังแข็งแกร่งและมีผลิตภัณฑ์โดดเด่น สามารถผ่านความเปลี่ยนแปลงทางการนโยบายการเงิน และความเสี่ยงด้านความขัดแย้งระหว่างประเทศได้ สามารถทยอยสะสมได้ตามแผนการ
   
   กองทุนเด่น เช่น
   TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
   B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS