เขียนเมื่อ: 26 February 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -0.06%, S&P500 +0.82%, NASDAQ +1.08%, EU STOXX 600 -1.58% (ยุโรป), CSI300 -1.67% (จีน), TOPIX -2.50% (ญี่ปุ่น), SENSEX -3.41% (อินเดีย), VN100 -0.06% (เวียดนาม), SET -1.94%
ไม่น่าเชื่อสำหรับโลกยุคปัจจุบัน แต่สุดท้ายรัสเซียก็ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน และเกิดการรบกันขึ้น ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงรุนแรงในวันแรกที่การปะทะกันเกิดขึ้น แต่ปรับตัวขึ้นทันทีในวันต่อมา นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการปรับตัวจากสัญญาณทางเทคนิด นอกจากนั้นนักลงทุนบางส่วนยังใช้โอกาสที่ตลาดปรับตัวลงฉับพลันในการเข้าซื้อบริษัทที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นฉับพลันเช่นกัน โดยราคาน้ำมัน Brent ขึ้นไปสูงกว่า $100/barrel ในวันแรกที่มีการปะทะ ก่อนจะปรับตัวลงมา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลต่อค่าครองชีพในไทยด้วย
กองทุนที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำที่แข็งแกร่งยังเป็นกลุ่มที่สามารถซื้อสะสมระยะยาวได้
โดยกลุ่มบริษัทเหล่านี้เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของนักลงทุนในจังหวะตลาดผันผวน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อ้างอิง
อย่างไรก็ตาม ควรใช้ความระมัดระวัง และรอดูสถานการณ์หากต้องการเพิ่มเงินลงทุนก้อนใหญ่
กองทุนเด่น เช่น
TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
ตลาด Emerging Markets โดยเฉพาะฝั่งเอเชียดูได้รับผลกระทบน้อยกว่าภูมิภาคอื่น นอกจากนั้นราคาปัจจุบันก็ยังน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มการเติบโต
ยังน่าสะสมสำหรับระยะยาว
กองทุนเด่น เช่น
PRINCIPAL APDI ลงทุนได้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มุ่งลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับ ตลาดโดยรวม,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน