ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +0.32%, S&P500 +1.79%, NASDAQ +1.98%, EU STOXX 600 -0.23% (ยุโรป), CSI300 -2.14% (จีน), TOPIX +3.78% (ญี่ปุ่น), SENSEX -0.87% (อินเดีย), VN100 +2.11% (เวียดนาม), SET -0.10%

2. การรบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนลากยาวมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว เกินกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด โดยล่าสุดรัสเซียประกาศจบขั้นตอนที่หนึ่งของแผนการรุกรานยูเครน โดยต่อจากนี้จะเน้นการเข้ายึดครองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนเป็นหลัก ส่งสัญญาณว่าการรบจะยังไม่จบง่ายๆ (อ้างอิง)

3. ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง หลังมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากเรื่องสงคราม โดยบริษัทน้ำมันของซาอุดิอาระเบียถูกกลุ่มก่อความไม่สงบในเยเมนโจมตี ต้องรอดูท่าทีว่าชาติผู้ผลิตน้ำมันจะมีการเปลี่ยนแผนการผลิตเพื่อพยุงราคาหรือไม่ (อ้างอิง)

4. กระแสการ delist ของหุ้นบริษัทจีนในสหรัฐฯ กลับมากดดันอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ ส่งผลให้หุ้นเทคจีนปรับตัวลงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม การที่หน่วยงานฝั่งจีนเคยออกมาประกาศก่อนหน้าว่าจะทำงานร่วมกับฝั่งสหรัฐฯ ยังเป็นสัญญาณที่ดีในระยะยาว (อ้างอิง)

การลงทุนน่าสนใจ

1. นักลงทุนระยะยาว สามารถทยอยสะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำที่แข็งแกร่งและมีผลิตภัณฑ์โดดเด่นได้
   นอกจากนั้นก็สามารถลงทุนในกองทุนที่เน้นประเทศที่มีโอกาสเติบโตได้สูงไปอีกหลายปี
   
   กองทุนเด่น เช่น
   TMBGQG ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เติบโตมั่นคงทั่วโลก,
   B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
   PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน

2. ผู้สนใจลงทุนหุ้นจีน อาจพิจารณาทยอยสะสม หลังมีการย่อตัวจากปัจจัยระยะสั้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสัญญาณเชิงบวกในระยะยาว ที่ทางการจีนประกาศก่อนหน้า
   
   กองทุนเด่น เช่น
   K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก,
   KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares)

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS