เขียนเมื่อ: 20 August 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -0.16%, S&P500 -1.21%, NASDAQ -2.62%, EU STOXX 600 -0.80% (ยุโรป), CSI300 -0.96% (จีน), TOPIX +1.08% (ญี่ปุ่น), SENSEX +0.31% (อินเดีย), VN100 +0.79% (เวียดนาม), SET +0.23%
ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ย่อตัวลงหลังปรับขึ้นติดต่อกันสี่สัปดาห์ ภายหลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงท่าทีว่ายังไม่ต้องการลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่จะถึงนี้ แม้นักลงทุนและนักเก็งกำไรจำนวนมากจะยังคาดหวังว่าตลาดจะฟื้นตัวในระยะสั้น (อ้างอิง)
สัญญาณเงินเฟ้อในยุโรปน่าเป็นห่วงมากขึ้น ภายหลังรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรออกมาที่ 10.1% สูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้กำลังซื้อแท้จริงลดลง ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นของประชาชน (อ้างอิง)
ท่าทีล่าสุดของนักลงทุนเอกอย่าง Warren Buffett มีโอกาสสะท้อนถึงมุมมองราคาพลังงานว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ภายหลัง Berkshire Hathaway ยื่นคำขอและได้รับอนุมัติให้สามารถถือครองหุ้นของบริษัทธุรกิจกลั่นน้ำมัน Occidental Petroleum ได้ถึง 50% โดยนักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสที่ Berkshire Hathaway จะพยายามเข้าซื้อกิจการทั้งหมดในท้ายที่สุด (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
รัฐบาลจีนยังไม่ยอมแพ้ในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ ภายหลังช่วงครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าเป้าหมาย โดยนายกรัฐมนตรี Li Keqiang มีแถลงการณ์กระตุ้นให้เขตเศรษฐกิจหลักเร่งการเติบโตในครึ่งปีหลัง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ถึงการเร่งการลงทุนในแผนพัฒนาต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยภาครัฐ ภายหลังธนาคารกลางของจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว (อ้างอิง)
เวียดนามยังได้รับความสนใจว่าจะเป็นฐานการผลิตของบริษัทชั้นนำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ภายหลัง Apple แสดงท่าทีต้องการให้เวียดนามเป็นฐารการผลิตสินค้าอย่าง Apple Watches และ MacBooks หนุนภาพการเติบโตของประเทศในระยะยาว แม้ปัจจัยกดดันระยะสั้นจากเงินเฟ้อทั่วโลกที่กระทบกดดันความต้องการบริโภคสินค้าจะทำให้การเติบโตภาคการผลิตชะลอตัวลง (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3, อ้างอิง4)
ภาพระยะสั้นถึงกลางยังมีความเสี่ยงมาก จึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มเงินลงทุนก้อนใหญ่
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ป้องกันการเสียโอกาส เราแนะนำนักลงทุนระยะยาวใช้กลยุทธ์ทยอยสะสม กองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่ง และมีฐานะการเงินมั่นคง
โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถที่จะเติบโตได้ดีในระยะยาว
กองทุนเด่น เช่น
KFGBRAND-A ลงทุนในบริษัทที่ยั่งยืน มีแบรนด์แข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะตลาด,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท
ตลาดเวียดนามยังน่าสนใจ โดยมีบริษัทใหญ่ย้ายฐานการผลิตเข้าเวียดนามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นักลงทุนสามารถใช้โอกาสที่ดัชนีทั่วโลกย่อตัว เพื่อสะสมสำหรับแผนลงทุนระยะยาว
กองทุน และ DR ที่น่าสนใจ เช่น
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock
Theme การลงทุนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพลังงานสะอาด น่าสนใจทยอยสะสม
หลังกฎหมาย the Inflation Reduction Act
ของสหรัฐฯ ได้รับการประกาศใช้แล้ว
โดยมีผลสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานสะอาด รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคลงทุนในการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นตัวบ้านเอง หรือยานพาหนะ
(อ้างอิง)
กองทุนน่าสนใจ เช่น
KFINFRA-A เน้นลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสาธารณูปโภค, การขนส่ง, โทรคมนาคม, และพลังงาน (review)