เขียนเมื่อ: 10 September 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +2.66%, S&P500 +3.65%, NASDAQ +4.14%, EU STOXX 600 +1.06% (ยุโรป), CSI300 +1.74% (จีน), TOPIX +1.83% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.68% (อินเดีย), VN100 -2.23% (เวียดนาม), SET +2.00%
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับบวกได้หลังย่อตัวมาสามสัปดาห์ติดต่อกัน แม้ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังยืนยันว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อสร้างความมั่นใจในการควบคุมเงินเฟ้อ นักวิเคราะห์ยังมองว่าตลาดในภาพรวมจะยังเป็นขาลง (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
สถานการณ์ในยุโรปยังมีแนวโน้มจะเกิดเศรษฐกิจถดถอย จากวิกฤติพลังงานและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยฤดูหนาวที่จะถึงนี้น่าจะสร้างความยากลำบากให้ประชาชนพอสมควร (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ตลาดหุ้นยังมีความผันผวนมาก โดยส่วนใหญ่ยังเป็นปัจจัยลบ
แนะนำนักลงทุนระยะยาว คอยทยอยสะสม หรือเพิ่มยอด DCA ช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะการสะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
กองทุนเด่น เช่น
KFGBRAND-A ลงทุนในบริษัทที่ยั่งยืน มีแบรนด์แข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะตลาด,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท
การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพลังงานสะอาด ยังน่าสนใจทยอยสะสม
เนื่องจากธุรกิจกลุ่มนี้ธุรกิจกลุ่มนี้มีโอกาสได้แรงหนุนจากจากกฎหมาย the Inflation Reduction Act
ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงปี 2023 เป็นต้นไป
โดยเฉพาะจะมีแรงจูงใจให้ประชาชนใช้จ่ายทั้งเรื่องยานพาหนะ และที่อยู่อาศัย
(อ้างอิง)
กองทุนน่าสนใจ เช่น
KFINFRA-A เน้นลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสาธารณูปโภค, การขนส่ง, โทรคมนาคม, และพลังงาน,
MRENEW-A ลงทุนแบบเชิงรุก ในบริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง