เขียนเมื่อ: 24 September 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -3.99%, S&P500 -4.65%, NASDAQ -5.07%, EU STOXX 600 -4.37% (ยุโรป), CSI300 -1.95% (จีน), TOPIX -1.16% (ญี่ปุ่น), SENSEX -1.26% (อินเดีย), VN100 -2.68% (เวียดนาม), SET +0.08%
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงท่าทีชัดเจน ว่าจะยังขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ และให้ความเห็นว่าอาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย กดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นจะถูกกดดันต่อไปในช่วงข้างหน้า โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงแล้วกว่า 10% ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้น้อยลงในไตรมาสข้างหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
นอกจากเรื่องดอกเบี้ยกดดันมูลค่าหุ้นแล้ว ประเด็นเรื่องเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นยังผูกพันโดยตรงกับความสามารถในการใช้จ่ายของผู้คน โดยหลายครอบครัวมีโอกาสจะปรับลดการใช้จ่ายลงซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย (อ้างอิง)
มีสัญญาณบวกบ้างจากฝั่งจีน โดยตัวเลขการจองห้องพักผ่าน online agency เจ้าใหญ่อย่าง Trip.com กลับมาสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของ Covid แล้ว แม้การเดินทางด้วยสายการบินจะลดลง รวมถึงยังมีการปิดเมืองเป็นครั้งคราว แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะกลับมาใช้จ่ายและบริโภคของผู้คนในประเทศจีน โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลจีนปรับมาตรการเพื่อให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ (อ้างอิง)
ตลาดหุ้นในภาพรวมยังเป็นขาลง
อย่างไรก็ตามการที่มีแต่ข่าวร้ายถือเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดซึมซับการคาดการณ์ในเชิงลบไปมากแล้ว แม้ momentum เชิงลบจะมีโอกาสดำเนินต่อไปอีกระยะ
แนะนำนักลงทุนระยะยาว คอยทยอยสะสม หรือเพิ่มยอด DCA ช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะการสะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนที่เรามีมุมมองต้องการร่วมเป็นเจ้าของในธุรกิจเหล่านั้น
กองทุนเด่น เช่น
KFGBRAND-A ลงทุนในบริษัทที่ยั่งยืน มีแบรนด์แข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะตลาด,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท
การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพลังงานสะอาด ยังน่าสนใจทยอยสะสม
เนื่องจากธุรกิจกลุ่มนี้ธุรกิจกลุ่มนี้มีโอกาสได้แรงหนุนจากจากกฎหมาย the Inflation Reduction Act
ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงปี 2023 เป็นต้นไป
โดยเฉพาะจะมีแรงจูงใจให้ประชาชนใช้จ่ายทั้งเรื่องยานพาหนะ และที่อยู่อาศัย
(อ้างอิง)
กองทุนน่าสนใจ เช่น
KFINFRA-A เน้นลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสาธารณูปโภค, การขนส่ง, โทรคมนาคม, และพลังงาน,
MRENEW-A ลงทุนแบบเชิงรุก ในบริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง