สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 10 - 14 ตุลาคม 2565

เขียนเมื่อ: 08 October 2022

ประเด็นน่าสนใจ

  1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +1.97%, S&P500 +1.51%, NASDAQ +0.73%, EU STOXX 600 +0.99% (ยุโรป), CSI300 +0.00% (จีน), TOPIX +3.86% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.03% (อินเดีย), VN100 -9.92% (เวียดนาม), SET -0.62%

  2. ตลาดหุ้นบวกแรงช่วงต้นสัปดาห์ หลังนักลงทุนหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขการเติบโตภาคการผลิตต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามตลาดปรับเริ่มลงช่วงท้ายสัปดาห์หลังตัวเลขการจ้างงานยังแข็งแกร่ง และสมาชิกสำคัญของ Fed ก็ยังย้ำถึงจุดยืนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

  3. ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ $100/barrel อีกครั้ง หลัง OPEC+ ประกาศลดกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ กลับมาเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ฤดูหนาวยุโรปใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า (อ้างอิง)

  4. ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงเกือบ 15% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารในเวียดนาม สร้างความกังวลเรื่องสภาพคล่องที่จะลดลงในตลาดหุ้น และการปรับตัวลงที่รวดเร็วของดัชนียังทำให้เกิดแรงขายจากการโดน margin call ของนักลงทุนรายย่อยอีกด้วย (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

  5. แม้ถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ย และความต้องการบริโภคของโลกที่มีแนวโน้มลดลง สัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศของเวียดนามยังแข็งแกร่ง โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว แม้มีคำเตือนให้ระมัดระวังความผันผวนในระยะสั้น (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3, อ้างอิง4)

การลงทุนน่าสนใจ

  1. ตลาดหุ้นยังไม่มีปัจจัยเชิงบวกในระยะสั้น และคงรักษา momentum เชิงลบต่อไปอีกระยะ
    อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางสถาบันเชื่อว่าระดับราคาของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในปัจจุบันน่าสนใจ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในอีกหนึ่งปีข้างหน้า (อ้างอิง)
    เราแนะนำนักลงทุนระยะยาว คอยทยอยสะสม หรือเพิ่มยอด DCA ช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
    โดยเฉพาะการสะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนที่เรามีมุมมองต้องการร่วมเป็นเจ้าของในธุรกิจเหล่านั้น

    กองทุนเด่น เช่น
    KFGBRAND-A ลงทุนในบริษัทที่ยั่งยืน มีแบรนด์แข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะตลาด,
    B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
    SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท

  2. ตลาดเวียดนามปรับตัวลงมารุนแรง ดูเป็นโอกาสที่น่าสนใจสะสมสำหรับแผนลงทุนระยะยาว
    โดยสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศของเวียดนามยังแข็งแกร่ง
    ซึ่งนักลงทุนสถาบันหลายแห่งก็เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของเวียดนาม และเตรียมใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเช่นกัน (อ้างอิง)

    กองทุน และ DR ที่น่าสนใจ เช่น
    PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
    E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
    FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock

  3. การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพลังงานสะอาด ยังน่าสนใจทยอยสะสม
    เนื่องจากธุรกิจกลุ่มนี้ธุรกิจกลุ่มนี้มีโอกาสได้แรงหนุนจากจากกฎหมาย the Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงปี 2023 เป็นต้นไป
    โดยเฉพาะจะมีแรงจูงใจให้ประชาชนใช้จ่ายทั้งเรื่องยานพาหนะ และที่อยู่อาศัย (อ้างอิง)

    กองทุนน่าสนใจ เช่น
    KFINFRA-A เน้นลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสาธารณูปโภค, การขนส่ง, โทรคมนาคม, และพลังงาน,
    MRENEW-A ลงทุนแบบเชิงรุก ในบริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS