เขียนเมื่อ: 12 November 2022
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones +4.14%, S&P500 +5.90%, NASDAQ +8.10%, EU STOXX 600 +3.66% (ยุโรป), CSI300 +0.56% (จีน), TOPIX +3.26% (ญี่ปุ่น), SENSEX +1.39% (อินเดีย), VN100 -6.52% (เวียดนาม), SET +0.67%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนล่าสุดปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ เพิ่มความหวังให้นักลงทุนว่าเงินเฟ้อใกล้จุดสูงสุด แม้เงินเฟ้อจะยังสูงกว่าระดับเป้าหมายอยู่มาก และรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลง (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
จีนเริ่มปรับมาตรการควบคุมโควิดโดยการลดเวลากักตัวในการเดินทางเข้าประเทศ แม้รัฐบาลยังเน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมโรค และมีรายงานจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสัญญาณการปรับตัวผ่านการผ่อนคลายระเบียบกักตัวส่งผลให้หุ้นของบริษัทท่องเที่ยวและสถานบันเทิงปรับตัวขึ้นอย่างทันทีทันใด (อ้างอิง)
ตลาดหุ้นเวียดนามยังปรับตัวลงต่อเนื่อง จากข่าวการทุจริตในการบริหารเงินทุนของบางบริษัท และปัญหาในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากปัจจัยทางจิตวิทยาแล้ว บริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง (อ้างอิง)
ข่าวไม่ดีกับวงการ cryptocurrency หลังตลาดซื้อขายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่าง FTX ประกาศล้มละลาย จากปัญหาต่อเนื่องตั้งแต่การประเมินหลักทรัพย์อ้างอิง สภาพคล่อง และการจัดการเงินของผู้ลงทุน ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากกระแสความนิยมการลงทุนใน cryptocurrency ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องติดตามว่ากรณีนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อกับการลงทุนใน cryptocurrency ในอนาคต (อ้างอิง1, อ้างอิง2)
ตลาดเวียดนามยังเป็นโอกาสดีสำหรับทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว แม้อาจปรับตัวลงต่อได้ในระยะสั้น
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า momentum ขาลงที่เกิดจากปัญหาเฉพาะกลุ่มนั้น ไม่ได้กระทบต่อศักยภาพในการเติบโตของบริษัทส่วนใหญ่
โดยเวียดนามได้รับการประเมินว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก
(มุมมองน่าสนใจ)
กองทุน และ DR ที่น่าสนใจ เช่น
PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลกเริ่มมีความหวังที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้น นักลงทุนที่ชะลอการลงทุนก่อนหน้านี้อาจพิจารณาแบ่งสัดส่วนเริ่มเข้าลงทุน
อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำเน้นการสะสมกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนที่เรามีมุมมองต้องการร่วมเป็นเจ้าของในธุรกิจเหล่านั้น
กองทุนเด่น เช่น
KFGBRAND-A ลงทุนในบริษัทที่ยั่งยืน มีแบรนด์แข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะตลาด,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท