เขียนเมื่อ: 18 February 2023
การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -0.13%, S&P500 -0.28%, NASDAQ +0.59%, EU STOXX 600 +1.40% (ยุโรป), CSI300 -1.75% (จีน), Hang Seng -2.22%, TOPIX +0.25% (ญี่ปุ่น), SENSEX +0.53% (อินเดีย), VN100 +0.45% (เวียดนาม), SET -0.77%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กลับสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าคาด รวมถึงบทสัมภาษณ์จากสมาชิกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่ายังมีโอกาสที่จะเห็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.5% (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงลบจ่อตลาดหุ้นในภาพรวม แต่ momentum ช่วงเดือนที่ผ่านมาและมุมมองของนักลงทุนว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่แย่อย่างที่หลายฝ่ายกังวล ทำให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์คงระดับอยู่ได้ (อ้างอิง)
นักลงทุนระยะยาวยังควรเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
ส่วนผู้สนใจเก็งกำไรระยะสั้น ควรติดตามภาพทางเทคนิคเพื่อช่วยในการตัดสินใจ และอาจพิจารณาลดสัดส่วนกำไรออกมาบ้าง – บทความ Finnomena Tactica Call ดัชนี S&P 500
กองทุนเด่น เช่น
MEGA10-A กองทุน Exclusive ที่ FINNOMENA ร่วมมือกับ partners ให้นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท Top 10 ของโลก ในสัดส่วนที่หาไม่ได้จากกองทุนอื่น,
B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท
ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังย่อตัวลงจากปัจจัยทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐฯ
แต่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปีนี้ยังเป็นเชิงบวก จากปัจจัยหนุนการเปิดเมืองและสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
กองทุนเด่น เช่น
KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน,
K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก