สรุปประเด็นการลงทุน
ก่อนสัปดาห์วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2566

เขียนเมื่อ: 25 February 2023

ประเด็นน่าสนใจ

  1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -2.99%, S&P500 -2.67%, NASDAQ -3.33%, EU STOXX 600 -1.42% (ยุโรป), CSI300 +0.66% (จีน), Hang Seng -3.43%, TOPIX -0.18% (ญี่ปุ่น), SENSEX -2.52% (อินเดีย), VN100 -2.29% (เวียดนาม), SET -1.07%

  2. ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคมที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง หลังมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นไปสูงกว่า และอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่นักลงทุนคาดหวังเมื่อช่วงต้นปี (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

  3. ความน่าจะเป็นที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ส่งผลให้ดอกเบี้ยตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น รวมถึงกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง แตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน รวมถึงส่งผลให้ (อ้างอิง)

  4. ตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคขนาดใหญ่ของจีนปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน แม้ตัวเลขผลประกอบการณ์ไตรมาสล่าสุดออกมากลางๆ โดยปัจจัยกดดันหลักก่อนหน้านี้มาจากทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐฯ และถูกเสริมด้วยตัวเลขเงินเฟ้อในภาพรวมทั่วโลกที่สูงกว่าความคาดหวังก่อนหน้า (อ้างอิง)

  5. ตลาดหุ้นกู้เวียดนามส่งสัญญาณที่นักลงทุนอาจต้องระวัง หลังภาคเอกชนเริ่มปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้จำนวนเงินกู้ยืมที่ครบกำหนดชำระในปีนี้ยังสูงกว่าปีที่ผ่านมามาก ถือเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณา โดยเฉพาะหากการดำเนินงานของภาคเอกชนไม่เป็นไปตามคาด ท่ามกลางตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่การระบาดของ Covid (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

การลงทุนน่าสนใจ

  1. นักลงทุนระยะยาวยังควรเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
    ส่วนผู้สนใจเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำให้ชะลอการลงทุน และอาจพิจารณาฉวยโอกาสหากมี panic sell

    กองทุนเด่น เช่น
    MEGA10-A กองทุน Exclusive ที่ FINNOMENA ร่วมมือกับ partners ให้นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท Top 10 ของโลก ในสัดส่วนที่หาไม่ได้จากกองทุนอื่น,
    B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
    SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท

  2. ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังย่อตัวลงมามากจากระดับสูงสุดเมื่อต้นปี
    แต่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปีนี้ยังเป็นเชิงบวก จากปัจจัยหนุนการเปิดเมืองและสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

    กองทุนเด่น เช่น
    KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
    BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน,
    K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก

  3. ตลาดเวียดนามยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว
    อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาแบ่งสัดส่วนการลงทุน และปันส่วนเงินลงทุนไว้เพื่อสะสมเพิ่มหากดัชนีปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
    หลังความเสี่ยงเรื่องปริมาณเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปีนี้มีโอกาสจะกดดันตลาดทุนหากเศรษฐกิจและการบริโภคเติบโตน้อยกว่าคาด

    กองทุน และ DR ที่น่าสนใจ เช่น
    PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนโดดเด่นมายาวนาน,
    E1VFVN3001 อ้างอิง E1VFVN30 ETF ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอ้างอิงดัชนี VN30 หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม,
    FUEVFVND01 อ้างอิง DIAMOND ETF ซึ่งลงทุนในบริษัทเวียดนามที่มีสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติสูง สะท้อนมุมมองโอกาสเป็น Super Stock

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS