ประเด็นน่าสนใจ

1. การเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ Dow Jones -4.43%, S&P500 -4.55%, NASDAQ -4.71%, EU STOXX 600 -2.26% (ยุโรป), CSI300 -3.96% (จีน), Hang Seng -6.07%, TOPIX +0.60% (ญี่ปุ่น), SENSEX -1.13% (อินเดีย), VN100 +3.36% (เวียดนาม), SET -0.45%

2. ตลาดหุ้นมีแรงเทขายหนักช่วงท้ายสัปดาห์ ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่า หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ อย่าง Silicon Valley Bank (SVB) มีปัญหาด้านสภาพคล่อง และในที่สุดก็ถูกภาครัฐออกคำสั่งให้ปิดกิจการในวันศุกร์ (อ้างอิง)

3. การปิดตัวของ SVB ถือเป็นการล้มของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2008 โดย SVB มีลูกค้า startups ที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และหากสุดท้ายเหตุการณ์นี้ทำให้บริษัทต่างๆ ขาดสภาพคล่องไปด้วยก็จะมีโอกาสเกิดผลกระทบเชิงลบเป็นลูกโซ่ (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

4. ตลาดหุ้นเอเชียก็ร่วงตามฝั่งสหรัฐฯ นอกจากนั้นผลประกอบการของบริษัทใหญ่อย่าง JD.com และ AIA ที่ออกมาไม่ดีนัก และการฟื้นตัวของผู้บริโภคก็มีแนงโน้มช้ากว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้า (อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3)

5. แรงกดดันจากความเสี่ยงภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับไปสะสมสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอย่างทองและพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับตัวลงเร็วที่สุดตั้งแต่ช่วงวิกฤติปี 2008 (อ้างอิง1, อ้างอิง2)

การลงทุนน่าสนใจ

1. กองทุนตราสารหนี้โลกน่าสนใจเพิ่มขึ้น โดยมีแรงหนุนสองทางจาก
   แรงหนุนแรกสำหรับระยะกลาง-ยาว คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรภาพรวมที่ต่อจากนี้น่าจะค่อยๆ ปรับตัวลง
   และ แรงหนุนที่สองสำหรับระยะสั้น คือ นักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสสับเปลี่ยนมาซื้อตราสารหนี้เพิ่มขึ้นจากความกังวลเรื่องปัญหาสภาพคล่องของธนาคารสหรัฐฯ
   
   กองทุนเด่น เช่น
   UGIS-N กองแม่บริหารโดย PIMCO ที่เป็น บลจ. ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารตราสารหนี้โดยเฉพาะ บริหารจัดการแบบเชิงรุก และชนะ Benchmark ต่อเนื่อง
   อ่านเพิ่มเติม - รีวิวกองทุน UGIS: คว้าโอกาสก่อนดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศ ด้วยกองทุนตราสารหนี้โลก

2. นักลงทุนระยะยาว แม้ยังแนะนำเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแบบมีวินัย
   เพิ่มเติมจากนั้นยังควรพิจารณาฉวยโอกาสสะสมกองทุนหุ้นคุณภาพดีเพิ่มเติมหากมี panic sell
   
   กองทุนเด่น เช่น
   MEGA10-A กองทุน Exclusive ที่ FINNOMENA ร่วมมือกับ partners ให้นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท Top 10 ของโลก ในสัดส่วนที่หาไม่ได้จากกองทุนอื่น,
   B-INNOTECH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี,
   SCBNDQ(A) ลงทุนแบบ passive ตามดัชนี NASDAQ-100 ที่ติดตามบริษัทเติบโตขนาดใหญ่ 100 บริษัท

3. ตลาดหุ้นจีนมีผลประกอบการที่น่าผิดหวังอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ายังคงฟื้นตัวในระยะกลาง-ยาว
   และน่าจะได้ปัจจัยหนุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐในช่วงต่อๆ ไปของปีนี้
   
   กองทุนเด่น เช่น
   KT-ASHARES-A ลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares),
   BCAP-CTECH ลงทุนแบบเน้นๆ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน,
   K-CHINA-A(A) ลงทุนในกลุ่ม All China ที่ครอบคลุมหุ้นจีนขนาดใหญ่ในทุกตลาดทั่วโลก

-ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ALL NEWS